วันพุธที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2558

กาแฟแก้วสุดท้าย กับ นายเผ่าพล



23 April 2006 at 09:59


ย้อนไปเมื่อ วัยมหาวิทยาลัยปี 1...

ฉันมีเพื่อนสนิทกับเค้าอยู่ 1 คน ชื่อว่า นายเผ่าพล

พล เป็นชายหนุ่มผิวขาว สูงเกือบ 180 ใส่แว่น หน้าตาดี แบบเด็กเรียน
แต่ดันเรียนไม่ได้เรื่อง !

พลอายุมากกว่าฉัน 2 ปี เลยพยายาม ให้ฉัน เรียกว่า พี่ มาตลอด ( แต่ไม่สำเร็จ )

และ เผ่าพลคนนี้เอง ที่เซ้าซี้ ให้ฉัน ลองโน่นลองนี่ ที่แปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา

เช่น เมื่อคราว ฤดูสอบ มาเยือน
ฉัน กับ พล ก็มัก ชวนกันไป ซื้อ เสบียง ไว้กินแก้เครียด เวลาอ่านหนังสือ

และ สิ่งที่ฉัน ไม่พลาดจะหยิบ มาด้วย ก็คือ
' นมรสโกโก้ 1 ขวดกลาง '

พลมัก เหยียดหยาม ฉันเสมอว่า " เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม"
ว่าแล้ว ก็หยิบ กาแฟกระป๋อง ที่ตัวเองชอบ มาใส่มือ ของฉัน

" กินนมแล้ว มันทำให้ ง่วง รู้ไหมเนี่ย ลองกาแฟเหอะ ตาสว่าง แถมอร่อยด้วยนะ เด็กน้อย "
( แต่ กาแฟที่พลเอามาให้ ก็เป็นกาแฟรสนม / แอบใจดี )

" กินแล้วง่วง ก็ยังดี กว่า กินแล้วโง่ แบบพลนะ แต่ก็ ลองดูก็ได้ " ฉันตอบแกมหมั่นไส้

นั่นคือวันที่ฉัน ริ ดื่มกาแฟ ...

เพียงเพราะอยากรู้ถึงฤทธิ์ ของคาเฟอีน ในน้ำดำๆ ขมๆ นี้ว่า
จะช่วยทำให้ตาสว่างได้ จริงหรือ ?

…ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เวลาในชีวิตของฉัน จะเพิ่มขึ้นบ้าง ไหมนะ ??....

จะว่าไปแล้ว ตอนนั้น ฉันก็ยังลังเลใจอยู่
ระหว่าง เอ็มร้อยห้าสิบ กับ กาแฟกระป๋องหลากยี่ห้อ
ที่แข่งกันเย็นอยู่ในตู้แช่ ที่ 7-11

เลยตัดสินใจ ซื้อมาลองให้หมด…( เพื่อโชว์เหนือ เพื่อนพลได้อีกทาง )

แล้วก็พบว่า กาแฟดูจะเข้าท่ากว่า… -_____- "

หลังจากนั้น ฉันก็ค่อยๆ ทำความรู้จัก กับเครื่องดื่มสุดคลาสสิกนี้ ทีละน้อย …

จากประสบการณ์ครั้งแรก
สอนให้รู้ว่า ...
กาแฟ ไม่ใช่น้ำเปล่า ที่คุณจะดื่มแบบ ซัดโฮก ทีเดียวหมดได้…

เพราะมันจะทำให้คุณ…
… ใจเต้นแรงเหมือนกำลังตกหลุมรัก

… ปวดหัว ตาสว่าง แต่สมองไม่ แล่น ( เหมือนเดินห้างกับแฟน แล้วกิ๊กโทรมา )

… และในที่สุด… เมื่อคาเฟอีนสิ้นฤทธิ์ คุณจะเฉื่อยเนือย หมดอาลัยตายอยาก
( เหมือนโดนแฟนจับได้ แถมกิ๊กบอกเลิกอีก เฮ้อออ !!! )

นายเผ่าพล แนะนำให้ นอนเอาแรงสักงีบ เพื่อตื่นขึ้นมา

ชิมกาแฟรสชาติใหม่ๆ ...

แต่เหตุการณ์ เมากาแฟ เช่นนี้ จะไม่เกิดขึ้นเลย
ถ้าได้เข้าใจคำว่า “ การละเลียด ” และ “ อารมณ์ ค่อยเป็น ค่อยไป ”

โลกข้างนอก จะหมุนไว แข่งกันไปไหน ก็ปล่อยๆไปก่อน

เมื่อถึงช่วงเวลา ของ กาแฟ ครั้งใดๆ ก็ตาม ควร ใช้ ให้ไหลไปช้าๆ

อย่างที่ พลชอบพูดว่า " กลับมา Slow down สักครั้ง Please !! "

อีกขั้น ของสิ่งที่ฉันคาดหวังกับเครื่องดื่มสีน้ำตาลนี่ ก็คือ ความอร่อย …

สองสามปีต่อจากนั้น ฉันกับนายเผ่าพล
มัก ชวนกันไปชิม กาแฟ ตามที่ต่างๆ

ตั้งแต่ กาแฟ ร้านอาแปะ ข้างๆ หอพัก ถุงละแค่ 8 บาท
จนถึง ไอริช คาปูชิโน กาแฟสดใส่ น้ำผึ้ง จาก สตาร์บัค คอฟฟี่ แก้วละ แลกข้าวได้ 3 มื้อ

เข้าใจว่า “ เอสเพรสโซ , มอคคาชิโน , ลาเต้ , อเมริกาโน”
และ ซานดิเอโกมาราโดนา
ก็คือกาแฟเย็น รสชาติเดียวกันหมด !!
ถ้าวางขายอยู่ใน กระท่อมกาแฟโนเนม ตามปั๊มน้ำมัน…

รู้แล้วว่า เพื่อนบ้าๆ ที่ชื่อ เผ่าพล ชงกาแฟสด ได้สวยงาม มาก
โดยเฉพาะ ลาเต้อาร์ท ที่มีมีลายรูปหัวใจ แถมยัง ทำอาหารไทย ได้อร่อยอย่าบอกใคร

และสุดท้าย หลายชั่วโมง ที่เราเคยผ่านมาด้วยกันนั้น ...

เราต่าง หลงรัก ความเงียบ และกลิ่นหอมๆ ในร้านกาแฟ เช่นเดียวกัน

มารู้ตัวอีกที … ฉันก็ติดใจใน น้ำดำๆ ขมๆ นี่ จนถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว…


แล้ววันหนึ่ง ไม่มีปี่ มีขลุ่ย

… ฉันก็ชวนเพื่อนรัก ให้มา เลิกกาแฟ กันเถอะ

พลถามว่า " เพื่ออะไร? "

ฉันตอบว่า .
" ก็ไม่รู้สิ แค่สงสัยว่า ถ้าเราขาดอะไร ที่มันอยู่ใกล้ๆ ตัว ไปบ้าง
มันจะเป็นยังไงกันนะ "

ฉันกับพล ตกลงกันว่า ใครเผลอไปดื่มก่อน แพ้

ปฎิบัติการ ดำเนินไป 4 วัน

ฉัน ชนะ ตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะ พลไม่ยอมเล่นด้วย

" ไม่เล่นอ่ะ เรารู้อยู่แล้ว ว่าไอ้ที่มันอยู่ใกล้ๆ เนี่ยดียังไง ไม่งั้นจะยอมให้มาอยู่ใกล้ทำไมล่ะ "

ฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจ เท่าไหร่

แต่อย่างน้อย การเลิกกาแฟ ในครั้งนั้น ก็ทำให้สำนึกได้ว่า...

เรื่องราว ธรรมดา ที่เรามี เราเห็นอยู่ทุกวัน นั่นแหละ คือสิ่งล้ำค่า ที่มักถูกมองข้ามเสมอๆ

บางที กว่า ที่เราจะรู้ค่าของสิ่งไหน เราอาจต้องเสียมันไปก่อน...

เหมือน ที่ฉันไม่เคยรู้สึกเลยว่า นายเผ่าพล เป็นคนสำคัญในชีวิต ขนาดไหน

จนกระทั่ง...

เขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย กับคลื่นยักษ์ สึนามิ ในอีกไม่กี่ปีถัดมา…

ฉันได้แต่นั่งเสียดาย วันเวลา ที่ไม่เคยใส่ใจ...

และไม่เคยมองเข้าไปให้ลึกเกินกว่า...แว่นสายตาของ ผู้ชายคนนี้ ให้เพียงพอ

จะมีใคร สักกี่คนกัน ในโลกใบนี้....
ที่เรา สามารถโทรหาได้ตอนตี 3 เพราะเพียงแค่
เหงา และ นอนไม่หลับ แต่เขากลับรับฟังเราทุกเรื่อง
โดยมีคำพูดติดปลอบใจ ที่ว่า " ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็เช้าแล้ว ไปใส่บาตรกันไหม ?"

คนที่. ชอบทำตัวบ้าบอ ไร้สาระ
เพียงเพื่อ ให้เราสบายใจ แม้ว่าจะกลายเป็นตัวตลก ในสายตาคนอื่น

คนที่…มาเยี่ยม มานอนอยู่ข้างๆเตียง ทุกครั้ง ที่เราป่วย แล้วบอกว่า
“ รีบๆ หายนะ จะได้ไปกิน หมูกระทะ ข้างๆ มหาลัย กัน ”

คนที่ .... เราอยู่ด้วย แล้ว เป็นตัวเองได้ง่ายๆ
และ สบายใจที่สุด แม้จะไม่ได้พูดอะไรกันเลยสักคำเดียว !

คนที่… จะหายหน้าไป เมื่อชีวิตเรา ดูสุขสบายดี เพราะมีใครคอยดูแล อยู่แล้ว
… แต่จะมาปรากฏตัวทุกครั้ง ในยามที่เรา...ไม่เหลือใคร...

จะมีใคร สักกี่คนกัน ……..ในโลกที่แสนกว้างใหญ่นี้

ฉันตอบตัวเองว่า
คง ไม่ มี อีก แล้ว

………………………………………………………………………………………….
ช่วงปิดเทอมต้น ปี 4 ซึ่งก็คือ เผ่าพลกับฉันเป็นเพื่อนกันมมา สี่ปีแล้ว
ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น

บังเอิญว่า ฉัน ประสบ กับ ความทุกข์ ใน ' รักครั้งแรก '

บังเอิญว่า พล ไม่กลับบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อ เป็นข้ออ้าง ให้ได้มาอยู่เป็นเพื่อนกัน ทุกๆวัน

บังเอิญที่ ฉันไปค้นหนังสือการ์ตูน แล้วดันเจอรูปถ่ายของตัวเองอยู่หลายรูป
ในกระเป๋าเป้ ของนายเผ่าพล

โดยเฉพาะ รูปที่ถ่ายสติ๊กเกอร์ 4 Act ด้วยกัน ใบนั้น
ที่ถูกเคลือบ พลาสติกไว้อย่างดี ...

บังเอิญที่ พล ปฏิเสธ กินข้าว ดูหนัง กับน้องๆ ในสังกัด

แถม ไม่ไปเตะบอล กะพวก เหมือนอย่างเคย...

บังเอิญ ที่ พลชอบไปซื้อ ส้มตำปู ไม่ใส่ปู แบบที่ ฉันชอบ มาแช่ไว้ในตู้เย็นในห้อง …

บางครั้ง ก็ ฝาน กล้วยน้ำว้าใส่ ลงไปใน นมโกโก้ ที่มี กาแฟ ผสมอยู่ครึ่งหนึ่ง


ไม่ทันตั้งตัว …………นายเผ่าพล หันมาถามฉันว่า

" มีใคร เคยรู้บ้างไหม ว่าเธอชอบกิน อะไร ยากๆ แบบนี้ "

นับเป็น ครั้งแรก ตั้งแต่ คบกันมา

ที่ฉันรู้สึกว่า แก้มทั้งสองข้างร้อนผ่าว และ น้ำตาทำท่า จะซึม

" อย่างน้อย ก็ เผ่าพล ไง "

นานๆ ฉันจะพูดชื่อ เพื่อน สักครั้ง

เพราะเริ่มรู้สึกแล้วว่า มีใครบางคน ที่ ไม่เหมือนเดิม

นายเผ่าพล บอก ความในใจ ออกมาสั้นๆ
และ ฉันขอ รับมันไว้ด้วยใจ เช่นกัน

ความรัก เป็นเรื่องแปลก

คนที่ดี กับ คนที่ใช่ ไม่สามารถ ทดแทนกันได้

ในวันนั้น ความรู้สึกหลากหลาย บินไป บินมา คล้ายดั่งแมงปอ ....

และครั้งนี้ .... ฉันเลือกที่จะวิ่งหนีมัน ...

เป็นเวลายาวนาน เท่าไหร่ก็ไม่ทราบได้

ที่ความสัมพันธ์ อันไม่สามารถหาจากไหน ในโลก อีกแล้ว
ถูกละเลยไป .... ด้วยความ รู้ไม่เท่าทัน ของ ฉันเอง...



จนกระทั่ง ข่าวใหญ่ เรื่อง สึนามิ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ และทีวี ขณะนั้น

มีรายชื่อ ผู้สูญหาย ปรากฏแก่ สายตา

" นาย เผ่าพล ......"

อีกหนึ่งสัปดาห์ หลังจากที่ได้ข่าว การจากไป

สมุดบันทึก เล่มหนึ่ง ได้ถูกส่งมาให้ ที่หน้าบ้าน

ลายมือ อ่านยาก ที่คุ้นเคย ถูกเปิดผ่านไปทีละหน้า พร้อมกับน้ำตา ที่ไม่ตั้งใจ

ไปเรียนทำกาแฟ ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน นายเผ่าพล ...

แล้ว ใครไปรับปาก ว่าจะไป อเมริกา...กับนาย

หลายสิ่ง หลายอย่าง ไม่สามารถ บอกได้ ผ่าน ถ้อยคำ

กระดาษหลายแผ่น ที่เป็นลายมือของฉัน ถูกสอด ไว้ในนั้น

... ทั้งลายมือ หยุกยิก ที่เขียน ล้อกันเล่น ตอนที่ฉันถอนฟันครุฑ
แล้วเขียนบอกไปว่า
' หมอฟัน หน้าเหมือนแกเลยว่ะ ' หล่อ จุงๆ

... ทั้งกระดาษโพย ข้อสอบในยางลบ
ที่ฉัน แอบโยน ให้ ด้วยใจเต้น ตึงตัง ตอน ปี 2

... แล้วยังมี สูตร เครื่องดื่ม กาแฟ พิสดาร ที่ฉัน เขียนแล้ว ท้าให้ พล ทำให้ดื่ม

บันทึก ของพล มีไม่มากวันนัก แต่ ในทุกวันนั้น มักมีฉันอยู่ด้วย...

บ้างเป็นลายมือ บ้างเป็นภาพวาด

มาจนถึงหน้าสุดท้าย ....

ฉันสัญญากับ ตัวเอง ว่า

จะไม่ไป หลงใหลกับ กาแฟ แก้วใดๆ ในโลกอีกต่อไป แล้ว

เพราะกาแฟ แก้วที่ อร่อยที่สุดในโลก
มีสูตรอย่างละเอียด อยู่ในมือ ฉันแล้ว ในวันนั้น....

หลับฝันดีนะ ...พี่ชาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น